เราพร้อมดูแลทุกความต้องการของคุณ

ด้วยทีมตัวแทนประกันชีวิตมืออาชีพ

แบบประกันชีวิตแนะนำ

รู้จักประกันชีวิตให้มากขึ้น

ผู้คนมักจะมีความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับการทำประกันชีวิต เราได้รวบรวมคำถามที่คุณมักสงสัย และเข้าใจไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการทำประกันชีวิตมาให้

ประกันชีวิตคือข้อตกลงระหว่างคุณกับบริษัทประกัน โดยคุณจ่ายเงินจำนวนหนึ่งที่เรียกว่า “เบี้ยประกัน” เป็นประจำ และบริษัทประกันจะจ่ายเงินก้อนใหญ่ที่เรียกว่า “ทุนประกัน” ให้กับคนที่คุณระบุไว้ (ผู้รับผลประโยชน์) เมื่อคุณเสียชีวิต หรือจ่ายคืนให้คุณเมื่ออยู่ครบตามกำหนดสัญญา พูดง่ายๆ คือการสร้างหลักประกันทางการเงินไว้ให้ครอบครัวในวันที่เราจากไป และเป็นเครื่องมือในการออมเงินระยะยาวได้ด้วย

ความจำเป็นของประกันชีวิตขึ้นอยู่กับภาระและความรับผิดชอบของแต่ละคน หากคุณเป็นเสาหลักของครอบครัว มีหนี้สินที่ต้องผ่อนชำระ (เช่น บ้าน, รถ) หรือมีคนที่ต้องดูแล (เช่น ลูก, พ่อแม่) ประกันชีวิตจะทำหน้าที่เป็น “เงินสำรองฉุกเฉินก้อนใหญ่” ที่ช่วยให้ครอบครัวของคุณใช้ชีวิตต่อไปได้โดยไม่ลำบาก และช่วยจัดการภาระหนี้สินแทนคุณในวันที่คุณไม่อยู่ ถือเป็นการวางแผนความเสี่ยงที่รอบคอบที่สุดอย่างหนึ่งครับ

ประกันชีวิตเหมาะกับทุกคนที่มี “ความรับผิดชอบ” และ “เป้าหมายทางการเงิน” ไม่ว่าคุณจะเป็น:

  • คนที่เป็นเสาหลักของครอบครัว: เพื่อสร้างความมั่นคงให้คนที่คุณรัก

  • คนที่มีหนี้สิน: เพื่อป้องกันไม่ให้หนี้สินตกเป็นภาระของคนข้างหลัง

  • คนที่ต้องการวางแผนเกษียณ: แบบประกันบางประเภทสามารถใช้เป็นเครื่องมือออมเงินเพื่อวัยเกษียณได้

  • คนที่ต้องการวางแผนการศึกษาให้ลูก: เพื่อการันตีว่าลูกจะมีทุนการศึกษาแน่นอนในอนาคต

  • คนที่ต้องการสิทธิลดหย่อนภาษี: เบี้ยประกันชีวิตสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้

“ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งดี” คือคำตอบที่ดีที่สุดครับ เพราะการทำประกันชีวิตตอนอายุน้อยและสุขภาพยังแข็งแรง จะทำให้คุณจ่ายเบี้ยประกันในราคาที่ถูกกว่ามาก และเบี้ยประกันนั้นจะคงที่ไปตลอดสัญญา การเริ่มต้นเร็วไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณประหยัด แต่ยังหมายถึงการได้รับความคุ้มครองที่ยาวนานกว่าด้วยครับ

เบี้ยประกันชีวิตจะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักๆ 4 อย่างครับ:

  1. อายุ: อายุน้อยกว่า เบี้ยถูกกว่า

  2. เพศ: โดยทั่วไปเพศหญิงจะมีเบี้ยประกันที่ถูกกว่าเล็กน้อย เพราะมีอายุขัยเฉลี่ยยาวกว่า

  3. สุขภาพ: ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว จะจ่ายเบี้ยในอัตรามาตรฐาน

  4. ทุนประกันและระยะเวลาคุ้มครอง: ยิ่งต้องการความคุ้มครองสูง หรือคุ้มครองเป็นระยะเวลานาน เบี้ยประกันก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย

ดังนั้น เบี้ยประกันจึงสามารถออกแบบให้เหมาะสมกับงบประมาณของแต่ละคนได้เสมอครับ

ประกันชีวิตมีหลายรูปแบบ แต่สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักๆ ได้แก่:

  • แบบชั่วระยะเวลา (Term Life): คุ้มครองชีวิตในระยะเวลาสั้นๆ (เช่น 10, 15, 20 ปี) เบี้ยประกันถูกที่สุด เน้นคุ้มครองชีวิตอย่างเดียว ไม่มีเงินออม

  • แบบตลอดชีพ (Whole Life): คุ้มครองชีวิตไปจนถึงอายุ 90 หรือ 99 ปี เบี้ยสูงกว่าแบบแรก แต่เน้นสร้างมรดกและให้ความคุ้มครองระยะยาว

  • แบบสะสมทรัพย์ (Endowment): เน้นการออมเงิน มีเงินคืนระหว่างสัญญา และจ่ายเงินก้อนเมื่อครบกำหนดสัญญา เหมาะสำหรับวางแผนการเงินระยะกลางถึงยาว

  • แบบควบการลงทุน (Unit-Linked): เป็นการรวมความคุ้มครองชีวิตเข้ากับการลงทุนในกองทุนรวม ให้โอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น แต่ก็มีความเสี่ยงจากการลงทุนเช่นกัน